เสริมคางบวมมาก อันตรายหรือไม่ รักษายังไงดี
การศัลยกรรมเสริมคางควรรู้อะไรบ้าง
การเสริมคางคือทางออกของผู้ที่มีใบหน้าไม่สมส่วน เช่น มีรูปหน้าสั้น ใบหน้าเหลี่ยม ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมคางนั้นท่านจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่ามีอะไรบ้าง และมีความเสี่ยงในการที่เมื่อเราเสริมคางบวมมากเกิดขึ้นได้ไหม
ความเสี่ยงในการทำศัลยกรรมเสริมคาง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งการเสริมคางมักจะเกิดอาการชาที่ริมฝีปาก เป็นผลที่มาจากด้านในริมฝีปากล่างมีแผลผ่าตัด ซึ่งอาการชาจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปในที่สุด และอาจจะมีอาการที่เกิดจากการเสริมคางปวดบวมมากเกิดขึ้นได้รอบ ๆ คาง บางรายอาจเกิดอาการชาถาวรซึ่งเกิดความผิดพลาดของแพทย์ที่ให้การรักษา
หลังจากการผ่าตัดท่านต้องระมัดระวังไม่ให้แผลกระทบกระเทือนแรง ๆ เพราะหากมีการกระทบกระเทือนอาจทำให้ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปนั้นเคลื่อนจากตำแหน่งที่ทำการผ่าตัดหรืออาจเกิดแผลอักเสบทำให้เกิดอาการบวมมาก ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายอีกด้วย
ใบหน้าของคนเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือส่วนบนหมายถึงส่วนหน้าผาก ส่วนกลางจึงจะมองตั้งแต่หน้าผากลงมาไปจนถึงจมูกและส่วนล่างคือตั้งแต่จมูกลงไปจนถึงปลายทางสำหรับผู้ที่มีรูปหน้าสัดส่วนทั้ง 3 เข้ากันก็จะทำให้ใบหน้าออกมาดูสวยงาม ส่วนใครที่มีรูปหน้าไม่สมส่วนคงต้องมองหาวิธีที่จะปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนนั่นคือวิธีการเสริมคาง
แล้วใครบ้างที่ควรเสริมคางหรือใครบ้างที่เหมาะที่จะทำศัลยกรรมเสริมคาง การเสริมคางจะเหมาะกับคนที่มีโครงสร้างของฟันกรามและฟันที่มีความแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและต้องเป็นคนที่มีสุขภาพดี เพราะหลังจากทำการเสริมคางจะมีอาการอักเสบและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
บทความแนะนำ กระชับจุดซ่อนเร้น By Rattinan.com
ปกติแล้วการเสริมคางจะมี 2 รูปแบบ ดังนี้
รูปแบบการเสริมคาง
- การเสริมคางโดยไม่ได้ใช้การผ่าตัด (Non-Surgical)
ทำได้โดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปที่บริเวณคาง โดยใช้สารเติมเต็มประเภทฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งจะทำให้คางดูเรียวและยาวขึ้นได้ เหมาะสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัดและไม่อยากพักฟื้น เห็นผลทันที เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัย - การเสริมคางโดยการผ่าตัด
- การเสริมโดยการใส่ซิลิโคน
การผ่าตัดเสริมคางแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะทำได้ง่าย มี 2 เทคนิค คือกรีดแผลนอกช่องปาก โดยจะเป็นการกรีดตรงใต้คาง 5 – 2 ซม. ไม่บวมนานและไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่จะมีข้อเสียคือในบางคนที่เป็นแผลเป็นง่ายหรือที่เรียกว่าคีลอยด์อาจมีแผลเป็นนูน ๆ ตรงใต้คาง
อีกเทคนิคหนึ่งคือการกรีดแผลในช่องปาก จะไม่มีแผลด้านนอกเลย โดยแพทย์จะกรีดแผลบริเวณเหงือก บวมนานและต้องดูแลแผลในช่องปากมากเป็นพิเศษ อาจจะเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย
- ย้ายกระดูกบริเวณคาง
การเสริมคางวิธีนี้เป็นการย้ายกระดูกของตัวคนไข้เอง เพียงตัดกระดูกบริเวณคางแล้วโยกออกมาให้คางดูยื่นขึ้นหรือได้รูปตามที่ต้องการ เป็นเทคนิคที่ต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง บวมนาน พักฟื้นนาน
เสริมคางบวมกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4 – 5 วัน ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น ผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็มซึ่งสามารถหายไปเอง นอกจากนี้อาจมีอาการบวมหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ หากมีอาการปวดคนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ แต่ถ้าหากเสริมคางมาแล้วบวมมากท่านจะต้องรีบเข้าปรึกษาแพทย์ทันที
บทความแนะนำ เนื้อปลิ้นข้างรักแร้ จากเว็บไซต์ Rattinan.com
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเสริมคางมีดังนี้
- ปากชา เนื่องจากบริเวณคางด้านซ้ายและขวา จะมีเส้นประสาทที่มาเลี้ยงริมฝีปากล่างอยู่ด้วย ทำให้เรามีความรู้สึกได้ แต่หากใช้แท่งซิลิโคนที่กว้างมากเกินไป จะต้องเลาะเข้าไปใกล้เส้นประสาททั้งสองข้างที่อยู่ชิดกระดูกกราม ก็อาจจะทำให้เกิดอาการชาที่ปากตามมาได้ โดยมากแล้วจะเกิดขึ้นได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
- การอักเสบติดเชื้อในระยะแรกที่แผลยังใหม่อยู่อาจจะมีการติดเชื้ออักเสบขึ้นได้ แต่จะไม่ค่อยได้เกิดขึ้นมากนัก เพราะแพทย์จะให้ยาป้องกันการอักเสบ ซึ่งท่านจะต้องดูแลเรื่องแผลเป็นอย่างดีด้วย
- การเอียงบิดของแท่งคางการศัลยกรรมเสริมคางในตอนแรกคางจะวางตัวอยู่เฉย ๆ โดยไม่มีอะไรไปยึดติด ซึ่งร่างกายจะยึดแท่งคางนี้ด้วยตัวของมันเอง โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ก่อนที่จะติดแน่นหากมีอะไรไปกระทบกระเทือนมันอาจส่งผลให้มีคางเอียงได้เหมือนกัน
บทสรุป
เสริมคางบวมมาก ปกติแล้วอาการบวมมากจากการทำศัลยกรรมเสริมคางมักไม่ค่อยเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดมักจะบวมนิดหน่อยจากแผลผ่าตัดซึ่งจะหายเองได้ภายในเวลา 1 สัปดาห์ หากมีอาการที่บวมมากท่านต้องรีบปรึกษาแพทย์เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงได้ ก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมคางท่านควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเข้ารับบริการ