นอนกรน ภาษาอังกฤษ
Snoring นอนกรน ภาษาอังกฤษ การนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเป็นวัยทารกไปจนถึงวัยชรา ซึ่งผู้ที่นอนกรนนั้นจะไม่ทราบว่าตัวเองมีอาการนอกจากจะมีผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สังเกตและบอกกล่าวให้ทราบ หากผู้ที่มีอาการนอนกรนนั้นไม่ทำการรักษาก็จะยิ่งเสี่ยงต่อโรคภัยที่จะตามมา เนื่องจากอาการนอนกรนนั้นจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของพฤติกรรมการนอนและสุขภาพที่เริ่มจะย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับโรคอ้วนที่อาจทำให้มีเนื้อเยื่อผนังคอที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้เกิดอาการกรน หรืออาจมีอาการต่อมทอนซิลโต และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจแบบไม่รู้ตัว
อาการนอนกรน ก่อให้เกิดโรคร้ายอะไรบ้าง ?
หากท่านมีอาการนอนกรนย่อมที่จะส่งผลเสียให้กับร่างกายได้ ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบ คิดว่าไม่เป็นอันตรายก็จะไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของปัญหาการนอนกรนสักเท่าไหร่ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าการนอนกรนนั้นจะส่งผลเสียที่ทำให้ผู้ที่มีอาการกรนนั้นมีอาการอ่อนเพลีย ง่วง รู้สึกไม่สดชื่นจากการที่สะดุ้งตื่นในช่วงกลางดึก เพราะรู้สึกหายใจไม่สะดวก ในบางคนอาจรู้สึกปวดหัว มึนศีรษะมีความรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้หลับนอนมาทั้งคืน ทั้งๆ ที่ได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ร่วมด้วย และหากไม่ทำการรักษาอาจจะส่งผลเสียขนาดใหญ่ที่ขยายวงกว้างไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคที่มีสาเหตุมาจากสุขภาพการนอนที่ไม่ดีได้ด้วย โดยเฉพาะโรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายจะเกิดภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วง ๆ ตลอดการนอนหลับ ซึ่งจะนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคอัมพาต อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รวมไปถึงอาการป่วยที่เป็นโรคทางใจ เช่น โรคซึมเศร้า ฯลฯ
ดังนั้นก่อนที่โรคร้ายจะมารุมเร้าผู้ที่นอนกรนนั้น ควรรีบทำการแก้ไขก่อนที่จะสายเกินแก้ ซึ่งวิธีแก้การนอนกรนหากทำได้จะช่วยทำให้ผู้ที่นอนกรนมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย โดยจะมีวิธีแก้ดังนี้
- แนะนำให้ปรับท่านอน ผู้ที่มีอาการกรนส่วนใหญ่จะมีการนอนที่ผิดท่า ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และจะส่งผลให้เกิดอาการนอนกรน มีอาการละเมอและฝันร้ายตามมา ซึ่งใครจะรู้ล่ะว่าแค่ปรับเปลี่ยนท่านอนจะสามารถช่วยแก้อาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งการรับประทานยาเข้าช่วย เพราะคนที่มีปัญหาด้านการนอนส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ อย่างการนอนผิดท่า ซึ่งการนอนด้วยท่านอนหงายนั้นจะทำให้โคนลิ้นและเพดานอ่อนปิดกั้นช่องลมหายใจจนทำให้เกิดเสียงกรนหรือไม่ ในบางรายเมื่อมีอาการกรนและไม่ทำการรักษาอาจจะทำให้มีอาการหนักขึ้นจนทำให้มีโรคอื่นตามมา และเสียงกรนยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวที่จะต้องนอนทนฟังเสียงรบกวนในทุก ๆ คืนทำให้เกิดความหงุดหงิดและทะเลาะกันได้อีกด้วย
การเปลี่ยนท่านนอนใหม่นั้นสามารถช่วยแก้อาการนอนกรนในระยะเบื้องต้นได้ดีที่สุดจะเป็นท่านอนตะแคง พร้อมงอข้อศอกเล็กน้อย เพื่อให้มือข้างหนึ่งยันคางไว้เป็นการปิดปาก หากไม่ถนัดในการนอนตะแคงอาจใช้เทคนิคเล็ก ๆ ช่วย ด้วยการใส่ผ้าหนา ๆ ไว้ในเสื้อด้านหลัง เพื่อเป็นการบังคับให้ผู้ที่นอนกรนนอนหลับในท่าตะแคงตลอดเวลา เท่านี้ก็จะช่วยปรับเปลี่ยนจากท่านอนหงายธรรมดาเป็นท่านอนตะแคงที่ช่วยลดอาการกรนและการหยุดหายใจในขณะหลับได้ง่ายๆ แล้ว
- จัดเตรียมบรรยากาศให้พร้อมก่อนที่จะทำการนอน ตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ที่มีอาการนอนกรนนั้นได้หลับสบายมากยิ่งขึ้นคือการจัดเตรียมบรรยากาศและสถานที่ให้พร้อมสำหรับการนอนมากที่สุด โดยเริ่มต้นจากการปรับหมอนหนุนนอนให้เหมาะสมเพียงแค่หาหมอนมารองศีรษะให้สูงขึ้นประมาณ 4 นิ้ว เพื่อเป็นการช่วยลดอาการบวมของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนทำให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น การทำความสะอาดที่หรับที่นอนก็มีส่วนสำคัญโดยเฉพาะการหมั่นซักปลอกหมอน ผ้าห่ม และผ้าปูเตียงอยู่เสมอ เพื่อเป็นการป้องกันไรฝุ่นสะสมที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจจนสุดท้ายกลายเป็นโรคภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการนอนกรนได้ด้วยเช่นกัน
- หาเทคโนโลยีมาช่วยแก้อาการนอนกรน ภาษาอังกฤษซึ่งปัจจุบันนี้จะมีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้อาการนอนกรนทุเลาลงได้จากการปรับสภาพอากาศ ปรับวิธีการหายใจ และบางเครื่องมือยังช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนที่เป็นผลเสียกับร่างกายได้ด้วย เช่นการเปิดเครื่องช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อเป็นการแก้ปัญหาอากาศแห้งภายในห้องนอน โดยที่อากาศที่แห้งนั้นจะทำให้มีอาการตีบแคบลงของทางเดินหายใจ การใช้แผ่นแปะจมูกหรือตัวถ่างจมูกในขณะนอนหลับ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ทางเดินหายใจในจมูก ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น เป็นต้น
- การดูแลสุขภาพ หากเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ช่วงคอหนาขึ้นจะส่งผลให้ไขมันไปพอกพูนบริเวณช่วงคอได้ และยังรวมไปถึงหน้าท้องเบียดช่องทางการหายใจจนเกิดอาการกรน ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงเป็นหนทางที่จำเป็นที่สุดในการแก้ไขอาการดังกล่าว ดังนั้นการลดน้ำหนักพร้อมกับการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย ในเรื่องของการรับประทานอาหารนั้นสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรนนั้นควรที่จะหยุดรับประทานอาหารก่อนที่จะทำการนอนเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อคอหย่อนคล้อยกว่าปกติ และเป็นสาเหตุหนึ่งของการมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เกินเกณฑ์มาตรฐานได้อีกด้วย ซึ่งการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดนั้นก็คือการออกกำลังกายที่จะต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายนั้นยังสามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งช่องทางเดินหายใจมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อภายในปากของเราไม่หย่อนลงมาขัดขวางทางเดินหายใจนั่นเอง
- เข้าพบแพทย์ ซึ่งผู้ที่มีอาการนอนกรนที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับแนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อขอรับคำปรึกษาและหาสาเหตุของอาการนอนกรนว่ามีที่มาจากโรคอื่น ๆ หรือเป็นเพราะพฤติกรรมที่คุณทำในชีวิตประจำวันกันแน่ หากเกิดจากโรคประจำตัวควรรีบเข้ารับการรักษาอาการของโรคให้หายขาดเพื่อป้องกันการลุกลามของโรคและเป็นการรักษาอาการนอนกรนได้ในทางอ้อมอีกด้วย
นอนกรน ภาษาอังกฤษ อาการนอนกรนนั้นเป็นอาการที่สร้างความรำคาญให้กับคนใกล้ชิด ซึ่งผู้ที่มีอาการนอนกรนจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีอาการ ต้องอาศัยคนใกล้ชิดเป็นคนคอยสังเกตและบอกกล่าวให้กับผู้ที่มีอาการได้รับทราบหากเป็นไม่มากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็คงจะช่วยได้ แต่หากเกิดอาการที่รุนแรงถึงขั้นที่หยุดหายใจในขณะหลับแนะนำให้รับปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด
