เสริมคางแล้วมีพังผืด คืออะไร ต้องแก้ไข หรือรักษายังไง
ปัญหาพังผืด ที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากทำการผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังศัลยกรรม การเกิดพังผืดนั้นอาจรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเปิดแผลใหม่เพื่อแก้ไขเลยก็เป็นได้ แล้วพังผืดนั้นคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
“พังผืด” คือเนื้อเยื่อที่ร่างกายของคนเรานั้นสร้างขึ้นมา โดยจุดประสงค์ก็คือเพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ในร่างกาย ซึ่งที่จริงแล้ว พังผืด คือเนื้อเยื่อ คลอลาเจนถือเป็นเนื้อเยื่อปกติของเราเอง แต่เป็นกระบวนการของร่างกาย ที่หากเวลามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายก็จะมีการสร้างเนื้อเยื่อมาหุ้มนั่นก็คอพังผืด
ในการทำศัลยกรรมนั้น สิ่งแปลกปลอมที่ว่าก็คือบรรดาถุงน้ำเกลือ เจล หรือซิลิโคน เช่นการทำศัลยกรรมเสริมคางแล้วมีพังผืด
ปัจจัยของการเกิดพังผืดได้แก่
- ความชำนาญของแพทย์น้อย หากทำศัลยกรรมกับแพทย์ที่มีความชำนาญน้อย แผลผ่าตัดไม่เนียน มีอาการบวมช้ำมีเลือดคั่งเยอะ หรืออักเสบตามมา ก็อาจจะส่งผลให้เกิดพังผืดขึ้นมา
- การเลือกใช้ซิลิโคน ผิวเรียบ มีโอกาสเกิดพังพืดหดรัดได้มากกว่าผิวทราย
- มาตรฐานของซิลิโคนที่ใช้ บางครั้งคลินิกที่ทำศัลยกรรมแจ้งกับทางคนไข้ว่าซิลิโคนนั้นเป็นของมีคุณภาพได้มาตรฐาน แต่กลับใส่ซิลิโคนเก่าไม่ได้มาตรฐานเข้าไปแทน ซึ่งนี่ก็เป็นความเสี่ยงของการเกิดพังผืดเช่นกัน
- รับประทานยาที่เข้าใจว่าเป็นยาสลายพังผืด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยาที่ช่วยสลายพังผืดได้จริง ๆ และเห็นผล 100% นั้นยังไม่มี การซื้อยาที่มีสรรพคุณว่าเป็นยาสลายพังผืดนั้น อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงอื่น ๆ และอาจเป็นต้นเหตุของ การเกิดพังผืดได้เช่นกัน
- ปัญหาจากการฉีดยาสลายพังผืดที่คาง ด้วยความเข้าใจว่าจะเป็นการแก้ปัญหาให้คางที่ถูกฉีดมายุบและเรียบหายเป็นปกติ แต่ความจริงแล้ว ส่วนที่ยุบหายไปคือ เนื้อเยื่อปกติบริเวณคาง ส่วนสารที่ฉีดยังคงอยู่ขนาดเท่าเดิม
- ความเข้าใจผิดอย่างมากจากการฉีดยาสลายพังผืด คนไข้ฉีดคางมาด้วยสารฟิลเลอร์เหลว ต่อมาได้รับการรักษาด้วยการฉีดยาสลายพังผืด เพราะเข้าใจว่าจะทำให้คางที่ฉีดมายุบเรียบสวยงามโดยไม่ต้องผ่าตัด
- การรอเวลาให้ร่างกายเสริมสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนส่วนที่แฟบแห้งหายไปเพราะยาฉีด เป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุด อาจจะต้องใช้เวลา 6-12 เดือน ขึ้นไป คนไข้ต้องมีความเข้าใจอย่างแท้จริง
การทำศัลยกรรมเสริมคาง
วิธีที่เสี่ยงต่อการเป็นมากที่สุดคือการฉีดคางด้วย Filler ส่วนการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนจะไม่มีภาวะเป็นพังผืดหลังการผ่าตัด หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แพทย์อาจจะแนะนำให้นวดคางหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการแข็งตึงของคาง
การเสริมคางด้วยแท่งซิลิโคน เป็นวิธีการที่จัดได้ว่าเป็นวิธีมาตรฐานอย่างหนึ่งของวงการเสริมความงาม หลักการก็ไม่มีอะไรซับซ้อน นอกจากการเอาแท่งซิลิโคนที่มีขนาดที่เหมาะสมเข้าไปวางในตำแหน่งที่เป็นคาง ซึ่งก็คือขอบล่างของกระดูกกรามด้านหน้านั่นเอง ไม่ใช่ใต้กระดูกคาง มีบางคนเข้าใจผิดว่าทำการเสริมคางแล้วทำไมคางไม่ยาวลง แต่งอนมาด้านหน้า ต้องมานั่งทะเลาะกับหมอทีหลังเพราะคิดกันคนละจุด เจ้าแท่งซิลิโคนที่จะใช้ในการเสริมคางนั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่เขาใช้ในการเสริมจมูก มีทั้งที่ขึ้นรูปมาเรียบร้อยแล้วจากโรงงาน และนำมาแต่งนิดหน่อยก่อนเสริมเข้าไป และชนิดที่แพทย์ต้องเหล่ารูปขึ้นมาเองให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนว่าจะใช้ชนิดไหน
เมื่อผ่าตัดแล้วเสร็จ ก็เป็นขั้นตอนของการดูแลหลังการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดแล้วย่อมมีอาการบวมได้บ้าง หากต้องการให้อาการบวมลดลงก็คงต้องช่วยเหลือโดยการประคบเย็น หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก การดูแลแผลผ่าตัดในปากก็เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะในปากจะมีน้ำลาย รวมทั้งอาหารปนเปื้อนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากดูแลบ้วนปากและระมัดระวังทานอาหารอย่าให้แข็งมากก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้นและไม่เกิดการอักเสบหลังการเสริมคาง
ความเสี่ยงของการผ่าตัดเสริมคาง
- ความเสี่ยงในการเลือดออก บวม ช้ำ หลังการผ่าตัด
- ความเสี่ยงของการติดเชื้อที่แผลหลังการผ่าตัด
ความเสี่ยงนี้จะลดลงเหลือน้อยมาก หากรับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังรับการผ่าตัดเป็นอย่างดี