เสริมคาง 3 เดือน มีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไร และวิธีดูแลหลังผ่าตัด
ปัญหาคางยื่น คางเบี้ยว หน้ากว้าง หน้าไม่เข้ารูปเป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไขด้วยการเสริมคาง ปรับแต่งรูปหน้าให้เข้ารูป ให้ได้สัดส่วน และการเสริมคางจะเห็นผลชัดเจนจะต้อง เสริมคาง 3 เดือนหรือ 6 เดือนถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน เพราะการเสริมคางจะมีอาการบวมและบอบช้ำบริเวณคาง และอาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง ส่วนใครที่ต้องการเสริมคางแต่ยังไม่รู้ว่าเขามีวิธีการทำอย่างไร วันนี้เราจะพาคุณไปดูขั้นตอนต่าง ๆ ของการเสริมคางว่ามีขั้นตอนอย่างไร และจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนการผ่าตัดเสริมคาง
การผ่าตัดเสริมคางมีกี่วิธี
ใครเหมาะสำหรับการผ่าตัด
คนที่มีคางเล็ก แล้วก็สั้น จะมีผลให้บริเวณใบหน้าเหมือนขาดอะไรบางส่วนไป การศัลยกรรมเสริมคาง จะช่วยให้รูปทรงของบริเวณใบหน้าส่วนล่างดียิ่งขึ้น ทำให้บริเวณใบหน้าดูสวยงาม มีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ ในกรณีที่ คางสั้นมาก ๆ (Recessed Chin) การผ่าตัดเสริมคางจะเป็นการช่วยทำให้รูปทรงบริเวณใบหน้า ให้ดูดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้การปรับแนวคางกับแนวกราม เรียวยาว เป็นแนวกัน นำมาซึ่งความสมดุลของคางกับคอ ลดการเกิดคอสองชั้นได้ด้วย
ตำแหน่งของแผลผ่าตัดเสริมคางมี 2 ตำแหน่งดังนี้
- แผลผ่าตัดเสริมคางในปาก
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลในปาก กว้างประมาณ 2 -3 เซนติเมตร การเปิดแผลในปาก
ข้อดี ซ่อนการมองเห็นรอยแผลได้ดี
ข้อเสีย ทานอาหาร จำเป็นจะต้องกินอาหารอ่อน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด จะต้องทำความสะอาดเป็นประจำ
- แผลผ่าตัดใต้คาง
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คาง
ข้อดี ดูแลแผลหลังผ่าตัดง่าย
ข้อเสีย แผลผ่าตัดใต้คางจะเห็นแผลได้ชัด มีโอกาสเป็นแผลเป็นนูน
การผ่าตัดเสริมคางดีกว่าการฉีดฟิลเลอร์อย่างไร
- การผ่าตัดเสริมคางจะรักษาทรงของคางแบบถาวร ส่วนฉีดฟิลเลอร์ ทรงคางจะเปลี่ยนไม่คงเดิม อาจจะมีการเกิดการไหลไปในที่อื่น
- การผ่าตัดเสริมคางสามารถเปลี่ยนทรงใหม่ได้ตามต้องการ หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ยาก
- การผ่าตัดสามารถเอาวัสดุเสริมคางออกได้โดยคางไม่เสียรูปทรงเดิม แล้วก็เอาออกได้หมดทั้งแท่ง แต่ว่าถ้าหากเป็นการฉีดฟิลเลอร์เมื่อต้องการเอาออกจะต้องลำออกและไม่สามารถเอาออกหมดได้
- การฉีดฟิลเลอร์มีโอกาสติดเชื้อสูงเนื่องจากว่าบางประเภทไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ
- การฉีดฟิลเลอร์อาจจะทำให้รูปหน้าผิดรูปผิดรอยจากการไหลของสารที่ฉีด และควบคุมทิศทางการไหลไม่ได้
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมคาง
- งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุงทุกประเภท ยาแอสไพริน (วิตามินซี ใบแป๊ะก้วย น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพิมโรส อย่างน้อย 1-2อาทิตย์ วิตามินอีและก็น้ำมันอื่น ๆ อย่างน้อย 3 เดือน) เพราะว่าจะทำให้เลือดไหลง่าย ผ่าตัดยากและก็บวมนาน
- หากแพ้ยาใด ๆ ตั้งครรภ์ หรือให้นมลูก ให้รีบแจ้งหมอโดยทันที
- ผู้ป่วยจะต้องไม่มีไข้ ไม่สบาย หรือมีการติดเชื้ออักเสบทางผิวหนัง
- ถ้าผู้ป่วยมีโรคอื่นหรือมียา อาหารเสริม ยาบำรุงใด ๆ ก็ตามที่ได้รับอยู่ประจำรวมถึงประวัติการแพ้ยา จำเป็นต้องแจ้งให้หมอทราบทันทีอย่าปิดหมดเด็ดขาดเพราะจะเป็นอันตรายกับตัวคุณเอง
- ถ้าเกิดคนไข้เคยทำการผ่าตัด หรือ ฉีดสารใด ๆ ก็ตามเข้าร่างกายมาก่อนต้องแจ้งให้หมอทราบก่อนทำการผ่าตัด
- ก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยควรจะทำความสะอาดร่างกายส่วนที่จะผ่าตัด (ล้างหน้า/บ้วนปาก)
- วันผ่าตัด คนไข้ไม่ควรนำของมีค่าประจำตัวเข้าห้องผ่าตัด
- วันผ่าตัด ผู้ป่วยไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรจะใส่เสื้อผ้าที่มีกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด
- บ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าห้องผ่าตัด
การดูแลหลังการเสริมคาง
- การล้างแผล หากแผลอยู่ใต้คาง ก็ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดล้างรอยแผลอย่างนุ่มนวล จนสะอาด ไม่มีคราบรอยเลือด จากนั้นจึงใช้เบตาดีนทาบริเวณรอยแผล หากมีการผ่าตัดในช่องปาก ก็ควรจะบ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ด้วยน้ำยาบ้วนปากที่แพทย์ได้เตรียมให้
- ถ้าหากมีการผ่าตัดแผลอยู่ในช่องปาก ควรจะทานอาหารอ่อน ๆ
- งดอาหารรสจัด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ของดอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
- ประคบเย็น หลังผ่าตัดใน 72 ชั่วโมงแรก หรือสามวันแรก ตลอดทั้งวันห้ามเว้นช่วงเวลาโดยเด็ดขาดโดยใช้เจลเย็น หรือน้ำแข็งก็ได้(ถ้าเป็นน้ำแข็งควรจะห่อด้วยพลาสติกอีกชั้นเพื่อป้องกันน้ำโดนแผล) ให้ประคบเย็นอย่างเบามือ ไม่กดหรือวางทับไปบนตำแหน่งที่มีซิลิโคนอยู่ ประคบไว้จนเย็นรู้สึกชาแล้วพัก ประคบไปเรื่อย ๆ บ่อยมากเท่าไหร่ได้ยิ่งดี
- นอนให้ตำแหน่งหัว เตียงชันประมาณ45องศา สูงกว่าลำตัว เพื่อให้ร่างกายได้ขับเลือดที่เสียจากสูงลงสู่ที่ต่ำ ในช่วงอาทิตย์แรก เพื่อช่วยทำให้ไม่บวมมาก
- กินยา จากที่หมอสั่งให้ครบ ซึ่งหมอจะสั่งยาให้ทาน บางทีก็อาจจะมี ยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ ลดบวม แก้ปวด สามารถอ่านวิธีกินที่หน้าซองได้ เพราะว่าหมอได้สั่งยาที่จำเป็นจะต้องให้เพียงพอแล้ว ถ้าเกิดกินหมดแล้วไม่ควรซื้อยากินต่อเอง
- ไปตรวจตามที่หมอนัด หมอจะนัดดูอาการหลังทำ ทุกอาทิตย์
- พบหมอตามนัดทุกครั้ง จนหมอแน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา
- ห้ามนอนคว่ำหรือนอนตะแคงโดยเด็ดขาด
- ถ้าเป็นไหมตัด หมอจะนัดตัดไหมแผลใต้คางในวันที่ 15 นับจากหลังวันผ่าตัดครั้งแรกถ้ามีปัญหา หรือเกิดอาการไม่ปกติ ต่าง ๆ ให้ไปพบหมอ อย่าปล่อยไว้ หรือจัดการปัญหาด้วยตัวเอง
- เพราะว่าคางเป็นส่วนที่อยู่ต่ำที่สุดของบริเวณใบหน้าจะมีผลให้บวมและยุบช้ากว่าวิธีการทำศัลยกรรมอื่น ๆ สักนิดหนึ่ง ใจเย็น ๆ อย่าส่องกระจกมาก เวลาผ่านไปคางจะค่อย ๆ เข้าที่เข้าทางเองและการ เสริมคาง 3 เดือนจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น